Home / Medical Article / เจาะลึกความจริงดริปวิตามิน! ดีจริงหรือ? ปลอดภัยจริงไหม?
ในยุคที่วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการสัมผัสกับสารพิษจากอาหารและสิ่งแวดล้อม สารพิษเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและเป็นสาเหตุหลักของโรคเรื้อรังต่างๆ ทำให้การดูแลสุขภาพกลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งขึ้น
การดริปวิตามิน หรือ การให้วิตามินทางเส้นเลือด จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในแนวทางการแพทย์บูรณาการ ซึ่งเน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่การบำบัดโรคเท่านั้น แต่เป็นการดูแลก่อนเกิดโรคได้ด้วยเช่นกัน
บทความนี้ Absolute Health จะพาไปทำความเข้าใจว่าดริปวิตามินคืออะไร มีความปลอดภัยเพียงใด แตกต่างจากการกินวิตามินปกติอย่างไร พร้อมวิเคราะห์ข้อดีและข้อจำกัด เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้บริการ
ดริปวิตามิน หรือ IV Drip Vitamin หรือ IV ทางการแพทย์ คือ การให้วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารสำคัญเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือดดำโดยตรง โดย IV ย่อมาจากคำว่า Intravenous คือ คำศัพท์ทางการแพทย์ที่หมายถึง “การนำเข้าภายในหลอดเลือดดำ” เป็นวิธีการทางการแพทย์ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะวิตามินที่เข้าไปจะดูดซึมได้เกือบ 100% รวมถึงเห็นผลรวดเร็วกว่าวิธีการรับประทานวิตามินทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมปริมาณและความเข้มข้นได้แม่นยำตามที่ร่างกายต้องการ อย่างไรก็ตามต้องทำหัตถการที่คลินิกโดยแพทย์เท่านั้น
การเปรียบเทียบระหว่างการดริปวิตามินเข้าเส้นเลือดกับการรับประทานวิตามินแบบเม็ด มีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการ ทั้งในด้านกระบวนการดูดซึม ประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ที่ได้รับ
การรับประทานวิตามิน | การดริปวิตามิน | |
กระบวนการดูดซึม | ผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก บางส่วนสามารถถูกทำลายด้วยกรดและเอนไซม์ | เข้าสู่กระแสเลือดโดยตรงผ่านหลอดเลือดดำ |
ประสิทธิภาพการดูดซึม | ประมาณ 20-50% | เกือบ 100% |
ผลลัพธ์ | เห็นผลค่อยเป็นค่อยไป | เห็นผลรวดเร็วกว่า โดยเฉพาะความสดชื่นและพลังงาน |
เหมาะกับใคร | ผู้ที่ไม่เร่งรีบฟื้นฟูร่างกาย และผู้ที่ดูแลร่างกายแบบต่อเนื่องระยะยาว | ผู้ที่ฟื้นฟูร่างกายแบบเร่งด่วน |
วิธีการให้ดริปวิตามินมีอยู่ 2 แบบหลัก ได้แก่
การดริปวิตามินฟื้นฟูร่างกายสามารถช่วยแก้ปัญหาหลากหลายด้าน ทั้งด้านสุขภาพและความงาม
คำถามที่หลายคนกังวลคือ ดริปวิตามินผิว อันตรายไหม? คำตอบคือไม่อันตราย หากทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
ซึ่งในด้านความปลอดภัยของตัววิตามินและเกลือแร่ที่ใช้ในการดริปนั้นเป็นสารที่ร่างกายต้องการอยู่แล้ว สารส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะโดยไม่สะสมให้เป็นอันตรายในร่างกาย และไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงหากทำถูกวิธี อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อควรระวังที่สำคัญคือ ต้องทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ใช้วิตามินที่มีแหล่งที่มาชัดเจน และทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
ความถี่ในการทำขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ โดยเฉลี่ยประมาณสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพและความต้องการของแต่ละบุคคล ในช่วงเริ่มต้น แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 4–6 สัปดาห์ เพื่อปรับสภาพร่างกาย หลังจากนั้นสามารถเว้นระยะเป็นทุก 2–3 สัปดาห์ต่อครั้งเพื่อการบำรุงรักษา อย่างไรก็ตาม ความถี่ที่เหมาะสมที่สุดจะขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพของแต่ละบุคคลและพิจารณาตามสภาพร่างกาย ผลการตอบสนอง และเป้าหมายเฉพาะของแต่ละคน
ในด้านระยะเวลาเห็นผลจะแตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ ความสดชื่นและพลังงานจะรู้สึกได้ทันทีหลังจากทำเสร็จ ส่วนการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนหลังจากทำไปแล้วประมาณ 3-4 ครั้งแรก สำหรับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจะต้องทำอย่างต่อเนื่องจึงจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
แม้ว่าการดริปวิตามินจะเป็นวิธีบำรุงร่างกายที่ปลอดภัย แต่ยังมีกลุ่มเสี่ยงบางกลุ่มที่ควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการทำดริปวิตามิน เพื่อป้องกันผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังเมื่อดริปวิตามิน เช่น
สำหรับผู้ที่สนใจที่จะดริปวิตามินแต่มีอาการอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ เพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัยก่อนการทำทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์จากการดริปวิตามินอย่างปลอดภัย
การดริปวิตามินบำรุงร่างกาย ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสูตรวิตามินที่เลือกใช้ ความซับซ้อนของส่วนผสม และมาตรฐานของสถานที่ที่ให้บริการ
สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อต้องเลือกสถานที่ดริปวิตามิน ได้แก่
แม้การดริปวิตามินจะได้รับการยอมรับและนิยมกันในปัจจุบัน แต่ควรทำความเข้าใจว่า ผลลัพธ์ของการดริปวิตามินจะแตกต่างกันไปตามสภาพสุขภาพของแต่ละบุคคล สภาพผิวเดิม การดูแลตนเอง และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน การได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกสูตรที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล
สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาร่างกายอ่อนเพลีย เป็นหวัดบ่อย ภูมิต้านทานต่ำ หรือได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนจากอาหาร โปรแกรม Absolute Health นำเสนอทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพด้วยการบำบัดวิตามินทางหลอดเลือด ซึ่งช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารโดยตรงและรวดเร็ว
Mega dose คือการรักษาด้วยวิตามินทางหลอดเลือดที่มีวิตามินซีปริมาณสูง 15-20 กรัม เป็นส่วนผสมหลัก พร้อมด้วยวิตามิน B หลากหลายชนิด เกลือแร่หลักอย่างแมกนีเซียม แคลเซียม และเกลือแร่รองต่างๆ เช่น เหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม แมงกานีส และทองแดง
โดย Mega dose ช่วยแก้ไขอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง เสริมภูมิต้านทาน ลดการอักเสบ และสามารถใช้ร่วมกับการทำคีเลชั่น (Chelation) เพื่อทดแทนแร่ธาตุที่สูญเสียไป
การบำบัดวิตามินทางหลอดเลือดที่ประกอบด้วยวิตามิน B1, B2, B3, B5, B6, วิตามิน C แมกนีเซียม และแคลเซียมในสัดส่วนที่เหมาะสม
การบำบัดนี้ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสมรรถภาพร่างกาย สมอง และจิตใจ สามารถใช้รักษาร่วมกับโรคต่างๆ เช่น ไมเกรน ภูมิแพ้ ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ซึมเศร้า โรคติดเชื้อ และช่วยในการฟื้นตัวหลังผ่าตัด นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาอ่อนเพลียเรื้อรัง เสริมภูมิต้านทาน และลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งสองโปรแกรมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน ดูแลสุขภาพอย่างครอบคลุมและรวดเร็ว รวมถึงดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์
ดริปผิวคือการให้วิตามินผ่านทางหลอดเลือดดำเพื่อบำรุงผิวทั้งตัว ส่วนฉีดผิวคือการฉีดสารบำรุงเข้าชั้นผิวหนังโดยตรงในบริเวณเฉพาะ เช่น หน้า คอ มือ
ดริปวิตามินสามารถช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้จริง โดยการเสริมสร้างคอลลาเจน ลดการอักเสบ และช่วยให้เซลล์ผิวทำงานได้ดีขึ้น แต่ผลลัพธ์จะขึ้นกับสภาพผิวเดิมและการดูแลตัวเองด้วย
วิตามินที่ช่วยเรื่องผิวขาวมีหลายตัว เช่น วิตามิน C, กลูตาไธโอน (Glutathione), วิตามิน B รวม, วิตามิน E, และ Alpha Lipoic Acid ซึ่งช่วยลดเม็ดสีเมลานิน เสริมสร้างคอลลาเจน และต้านอนุมูลอิสระ
โอกาสเกิดการแพ้น้อยมาก หากใช้วิตามินคุณภาพดีและทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ก่อนทำจะมีการซักประวัติการแพ้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
Absolute Health คือ ศูนย์ดูแลรักษาสุขภาพแบบบูรณาการมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ที่ผสมผสานการแพทย์แผนปัจจุบันกับการแพทย์ทางเลือกที่ผ่านการศึกษาและมีหลักฐานสนับสนุน เรามีทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ พร้อมการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่องด้วยการประชุมแพทย์เพื่ออัปเดตข้อมูลทุกเดือน นอกจากนี้ การรักษาของเราเป็นการรักษาเฉพาะแต่ละบุคคล เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
Absolute Health ให้การดูแลแบบองค์รวม ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และวิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การแพทย์ชะลอวัย โดยแพทย์ชะลอวัยที่มีประสบการณ์ รักษาโรคเบาหวานแบบองค์รวม การเสริมภูมิคุ้มกัน รวมถึงการดูแลผู้ที่กังวลเรื่องฮอร์โมนตก วัยทอง
Website: https://www.absolutehealth.co.th/
E-mail: [email protected]
Address: Absolute Health: Integrative Medicine
20/2-7 Ruam Rudee Village
Soi Ruamrudee, Ploenchit Rd., Lumpini, Pathumwan, Bangkok 10330
เวลาทำการ: จันทร์-อาทิตย์ 9.00 – 18.00 น.
แอ็บโซลูท เฮลธ์ คลินิค
20/2-7 โครงการร่วมฤดีวิลเลจ
ซอยร่วมฤดี ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
เวลาทำการ
จันทร์-อาทิตย์ เวลา 9.00 น. – 18.00 น.
E-mail: [email protected]