Medical Article

Home / Medical Article / เจาะลึกความจริงดริปวิตามิน! ดีจริงหรือ? ปลอดภัยจริงไหม?

เจาะลึกความจริงดริปวิตามิน! ดีจริงหรือ? ปลอดภัยจริงไหม?

เจาะลึกความจริงดริปวิตามิน! ดีจริงหรือ? ปลอดภัยจริงไหม?

Absolute Health SEO AUG C01 1 1200x628

ในยุคที่วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการสัมผัสกับสารพิษจากอาหารและสิ่งแวดล้อม สารพิษเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและเป็นสาเหตุหลักของโรคเรื้อรังต่างๆ ทำให้การดูแลสุขภาพกลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งขึ้น 

การดริปวิตามิน หรือ การให้วิตามินทางเส้นเลือด จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในแนวทางการแพทย์บูรณาการ ซึ่งเน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่การบำบัดโรคเท่านั้น แต่เป็นการดูแลก่อนเกิดโรคได้ด้วยเช่นกัน

บทความนี้ Absolute Health จะพาไปทำความเข้าใจว่าดริปวิตามินคืออะไร มีความปลอดภัยเพียงใด แตกต่างจากการกินวิตามินปกติอย่างไร พร้อมวิเคราะห์ข้อดีและข้อจำกัด เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้บริการ

ดริปวิตามิน คืออะไร

ดริปวิตามิน หรือ IV Drip Vitamin หรือ IV ทางการแพทย์ คือ การให้วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารสำคัญเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือดดำโดยตรง โดย IV ย่อมาจากคำว่า Intravenous คือ คำศัพท์ทางการแพทย์ที่หมายถึง “การนำเข้าภายในหลอดเลือดดำ” เป็นวิธีการทางการแพทย์ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะวิตามินที่เข้าไปจะดูดซึมได้เกือบ 100% รวมถึงเห็นผลรวดเร็วกว่าวิธีการรับประทานวิตามินทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมปริมาณและความเข้มข้นได้แม่นยำตามที่ร่างกายต้องการ อย่างไรก็ตามต้องทำหัตถการที่คลินิกโดยแพทย์เท่านั้น

ดริปวิตามินและการทานวิตามินต่างกันอย่างไร?

การเปรียบเทียบระหว่างการดริปวิตามินเข้าเส้นเลือดกับการรับประทานวิตามินแบบเม็ด มีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการ ทั้งในด้านกระบวนการดูดซึม ประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ที่ได้รับ

 

การรับประทานวิตามิน

การดริปวิตามิน

กระบวนการดูดซึม

ผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก บางส่วนสามารถถูกทำลายด้วยกรดและเอนไซม์

เข้าสู่กระแสเลือดโดยตรงผ่านหลอดเลือดดำ

ประสิทธิภาพการดูดซึม

ประมาณ 20-50% 

เกือบ 100% 

ผลลัพธ์

เห็นผลค่อยเป็นค่อยไป

เห็นผลรวดเร็วกว่า โดยเฉพาะความสดชื่นและพลังงาน

เหมาะกับใคร

ผู้ที่ไม่เร่งรีบฟื้นฟูร่างกาย และผู้ที่ดูแลร่างกายแบบต่อเนื่องระยะยาว

ผู้ที่ฟื้นฟูร่างกายแบบเร่งด่วน

ประเภทการดริปวิตามิน

วิธีการให้ดริปวิตามินมีอยู่ 2 แบบหลัก ได้แก่

  • IV Drip หรือ IV Infusion – การผสมระหว่างวิตามิน น้ำเกลือ แล้วปล่อยเข้าร่างกายอย่างช้าๆ ผ่านสายน้ำเกลือ 
  • IV Push หรือ IV Bolus – การดริปวิตามินเข้าหลอดเลือดดำโดยตรงโดยไม่ผสมน้ำเกลือ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที

ดริปวิตามิน ช่วยอะไรได้บ้าง?

การดริปวิตามินฟื้นฟูร่างกายสามารถช่วยแก้ปัญหาหลากหลายด้าน ทั้งด้านสุขภาพและความงาม

ด้านสุขภาพ:

  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ลดอาการอ่อนเพลีย
  • ฟื้นฟูร่างกายหลังการทำงานหนัก
  • ฟื้นฟูภาวะสุขภาพสำหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพตับ ไต และต้องการฟื้นฟูและดูแลหลอดเลือด

ด้านความงาม:

  • บำรุงผิวให้กระจ่างใส
  • เสริมสร้างคอลลาเจน
  • ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
  • ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ

ให้วิตามินทางเส้นเลือด อันตรายไหม?

คำถามที่หลายคนกังวลคือ ดริปวิตามินผิว อันตรายไหม? คำตอบคือไม่อันตราย หากทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน

ซึ่งในด้านความปลอดภัยของตัววิตามินและเกลือแร่ที่ใช้ในการดริปนั้นเป็นสารที่ร่างกายต้องการอยู่แล้ว สารส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะโดยไม่สะสมให้เป็นอันตรายในร่างกาย และไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงหากทำถูกวิธี อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อควรระวังที่สำคัญคือ ต้องทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ใช้วิตามินที่มีแหล่งที่มาชัดเจน และทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้น

Absolute Health SEO AUG C01 2 1200x628

ดริปวิตามิน บ่อยแค่ไหน? เห็นผลเมื่อไหร่?

ความถี่ในการทำขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ โดยเฉลี่ยประมาณสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพและความต้องการของแต่ละบุคคล  ในช่วงเริ่มต้น แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 4–6 สัปดาห์ เพื่อปรับสภาพร่างกาย หลังจากนั้นสามารถเว้นระยะเป็นทุก 2–3 สัปดาห์ต่อครั้งเพื่อการบำรุงรักษา  อย่างไรก็ตาม ความถี่ที่เหมาะสมที่สุดจะขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพของแต่ละบุคคลและพิจารณาตามสภาพร่างกาย ผลการตอบสนอง และเป้าหมายเฉพาะของแต่ละคน

ในด้านระยะเวลาเห็นผลจะแตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ ความสดชื่นและพลังงานจะรู้สึกได้ทันทีหลังจากทำเสร็จ ส่วนการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนหลังจากทำไปแล้วประมาณ 3-4 ครั้งแรก สำหรับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจะต้องทำอย่างต่อเนื่องจึงจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน

ข้อแนะนำ

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ประมาณ 2 ลิตร/วัน
  • พักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบ 5 หมู่
  • ทาครีมกันแดด SPF สูง เพื่อป้องกันแสงแดด

ใครไม่ควรทำดริปวิตามิน?

แม้ว่าการดริปวิตามินจะเป็นวิธีบำรุงร่างกายที่ปลอดภัย แต่ยังมีกลุ่มเสี่ยงบางกลุ่มที่ควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการทำดริปวิตามิน เพื่อป้องกันผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังเมื่อดริปวิตามิน เช่น

  • หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
  • ผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
  • คนที่แพ้วิตามินหรือยาบางชนิด
  • ผู้ที่กำลังป่วยมีไข้สูง
  • ผู้ที่ใช้ยาต้านเกล็ดเลือด 
  • ผู้ที่มีแผลหรือผื่น บริเวณที่ต้องสอดเข็ม

สำหรับผู้ที่สนใจที่จะดริปวิตามินแต่มีอาการอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ เพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัยก่อนการทำทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์จากการดริปวิตามินอย่างปลอดภัย

ราคาดริปวิตามิน

การดริปวิตามินบำรุงร่างกาย ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสูตรวิตามินที่เลือกใช้ ความซับซ้อนของส่วนผสม และมาตรฐานของสถานที่ที่ให้บริการ

วิธีเลือกสถานบริการดริปวิตามิน

สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อต้องเลือกสถานที่ดริปวิตามิน ได้แก่

  • ใบอนุญาตและมาตรฐาน – ตรวจสอบใบอนุญาตของสถานที่ให้บริการว่าน่าเชื่อถือเพียงใด
  • แพทย์ผู้มีประสบการณ์ – ควรมีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ดำเนินการ
  • คุณภาพวิตามิน – คลินิกที่ใช้บริการต้องเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน
  • ความสะอาดและปลอดภัย – สภาพแวดล้อมต้องสะอาด ปลอดเชื้อ
  • การติดตามอาการ – มีการดูแลติดตามอาการขณะทำไปจนถึงหลังการให้บริการ

แม้การดริปวิตามินจะได้รับการยอมรับและนิยมกันในปัจจุบัน แต่ควรทำความเข้าใจว่า ผลลัพธ์ของการดริปวิตามินจะแตกต่างกันไปตามสภาพสุขภาพของแต่ละบุคคล สภาพผิวเดิม การดูแลตนเอง และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน การได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกสูตรที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล

ดริปวิตามินที่ Absolute Health

สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาร่างกายอ่อนเพลีย เป็นหวัดบ่อย ภูมิต้านทานต่ำ หรือได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนจากอาหาร โปรแกรม Absolute Health นำเสนอทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพด้วยการบำบัดวิตามินทางหลอดเลือด ซึ่งช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารโดยตรงและรวดเร็ว

1. Mega dose

Mega dose คือการรักษาด้วยวิตามินทางหลอดเลือดที่มีวิตามินซีปริมาณสูง 15-20 กรัม เป็นส่วนผสมหลัก พร้อมด้วยวิตามิน B หลากหลายชนิด เกลือแร่หลักอย่างแมกนีเซียม แคลเซียม และเกลือแร่รองต่างๆ เช่น เหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม แมงกานีส และทองแดง

โดย Mega dose ช่วยแก้ไขอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง เสริมภูมิต้านทาน ลดการอักเสบ และสามารถใช้ร่วมกับการทำคีเลชั่น (Chelation) เพื่อทดแทนแร่ธาตุที่สูญเสียไป

2. Modified Myer’s Cocktail Infusion

การบำบัดวิตามินทางหลอดเลือดที่ประกอบด้วยวิตามิน B1, B2, B3, B5, B6, วิตามิน C แมกนีเซียม และแคลเซียมในสัดส่วนที่เหมาะสม

การบำบัดนี้ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสมรรถภาพร่างกาย สมอง และจิตใจ สามารถใช้รักษาร่วมกับโรคต่างๆ เช่น ไมเกรน ภูมิแพ้ ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ซึมเศร้า โรคติดเชื้อ และช่วยในการฟื้นตัวหลังผ่าตัด นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาอ่อนเพลียเรื้อรัง เสริมภูมิต้านทาน และลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งสองโปรแกรมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน ดูแลสุขภาพอย่างครอบคลุมและรวดเร็ว รวมถึงดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ดริปผิวกับฉีดผิว ต่างกันยังไง?

ดริปผิวคือการให้วิตามินผ่านทางหลอดเลือดดำเพื่อบำรุงผิวทั้งตัว ส่วนฉีดผิวคือการฉีดสารบำรุงเข้าชั้นผิวหนังโดยตรงในบริเวณเฉพาะ เช่น หน้า คอ มือ

ดริปวิตามินสามารถช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้จริง โดยการเสริมสร้างคอลลาเจน ลดการอักเสบ และช่วยให้เซลล์ผิวทำงานได้ดีขึ้น แต่ผลลัพธ์จะขึ้นกับสภาพผิวเดิมและการดูแลตัวเองด้วย

วิตามินที่ช่วยเรื่องผิวขาวมีหลายตัว เช่น วิตามิน C, กลูตาไธโอน (Glutathione), วิตามิน B รวม, วิตามิน E, และ Alpha Lipoic Acid ซึ่งช่วยลดเม็ดสีเมลานิน เสริมสร้างคอลลาเจน และต้านอนุมูลอิสระ

โอกาสเกิดการแพ้น้อยมาก หากใช้วิตามินคุณภาพดีและทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ก่อนทำจะมีการซักประวัติการแพ้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมกับ Absolute Health

Absolute Health คือ ศูนย์ดูแลรักษาสุขภาพแบบบูรณาการมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ที่ผสมผสานการแพทย์แผนปัจจุบันกับการแพทย์ทางเลือกที่ผ่านการศึกษาและมีหลักฐานสนับสนุน เรามีทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ พร้อมการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่องด้วยการประชุมแพทย์เพื่ออัปเดตข้อมูลทุกเดือน นอกจากนี้ การรักษาของเราเป็นการรักษาเฉพาะแต่ละบุคคล เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

Absolute Health ให้การดูแลแบบองค์รวม ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และวิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การแพทย์ชะลอวัย โดยแพทย์ชะลอวัยที่มีประสบการณ์ รักษาโรคเบาหวานแบบองค์รวม การเสริมภูมิคุ้มกัน รวมถึงการดูแลผู้ที่กังวลเรื่องฮอร์โมนตก วัยทอง 

ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการแพทย์บูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย 

Website: https://www.absolutehealth.co.th/  

E-mail: [email protected] 

Address: Absolute Health: Integrative Medicine

20/2-7 Ruam Rudee Village

Soi Ruamrudee, Ploenchit Rd., Lumpini, Pathumwan, Bangkok 10330

เวลาทำการ: จันทร์-อาทิตย์ 9.00 – 18.00 น.

error: Content is protected !!