Medical Service

Home / Medical Service / Illness / โรคตับ

โรคตับ

โรคตับ

liver disease oc23 banner scaled

ตับอวัยวะสำคัญของร่างกายที่มีเพียงหนึ่งเดียว และไม่มีอวัยวะอื่นใดแทนที่ได้  หรือทำหน้าที่สำคัญแทนได้เลย  เพราะเมื่อไหร่ ก็ตามที่ตับเกิดปัญหา อาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่ตามมาและส่งผลอันตรายถึงชีวิต  การดูแลสุขภาพตับให้แข็งแรงห่างไกลโรค จึงถือเป็นการดูแลสุขภาพตับที่ดีที่สุดที่สามารถทำได้

Liver disease Oc23 01

หน้าที่ของตับ

ผลิตฮอร์โมนและโปรตีนที่จำเป็น ทั้งการสร้าง Plasma proteins  เช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำ สารอาหารและเกลือแร่เอาไว้ในหลอดเลือด  รวมถึงการสร้างโปรตีน Fibrinogen  ที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด

ช่วยทำหน้าที่ย่อยอาหาร และช่วยผลิตน้ำดี  ที่ทำหน้าที่ย่อยและเผาผลาญไขมัน

เป็นแหล่งสะสมของพลังงาน โดยเป็นที่กักเก็บไกลโคเจน เพื่อส่งให้ร่างกาย

ช่วยขับล้างสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย โดยการขับถ่าย และการขับออกทางปัสสาวะ

Liver disease Oc23 02

ตับป่วยด้วยโรคอะไรได้บ้าง

ไขมันพอกตับ คือ  ภาวะที่มีไขมันเข้าไปแทรกบริเวณเนื้อเยื่อตับ  ซึ่งปกติแล้วไขมันในร่างกายนั้นจะถูกเก็บไว้ตามเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนังที่พุง แต่เมื่อใดที่มีไขมันมากเกินไป ไขมันจะไปแทรกและแย่งพื้นที่ตับ ซึ่งอาจส่งผลให้ตับเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็จะหลั่งสารอักเสบออกมาในร่างกายตามปริมาณไขมันที่พอกตับขึ้นเรื่อย ๆ  ซึ่งหากไขมันสะสมมากเกินไป เซลล์ตับก็จะถูกแปรสภาพได้  ซึ่งเมื่อใดที่แปรสภาพนั่นหมายถึงภาวะความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง  

Liver disease Oc23 03

โรคตับแข็ง  คือภาวะที่ตับถูกทำลายจากการอักเสบซ้ำ ๆ  ทั้งการอักเสบจาก ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี หรือการที่ปล่อยให้ร่างกายเป็นไขมันพอกตับเรื้อรัง   โดยตับที่ถูกทำลายและอักเสบนั้นจะเกิดการซ่อมแซมตนเองด้วยการสร้างเนื้อเยื่อที่เป็นพังผืดแข็ง (ภาวะตับแข็ง ) ขึ้นมาแทนเนื้อตับปกติ  ทำให้ตับนั้นทำงานลดลง เลือดไปเลี้ยงที่ตับน้อยกว่าปกติ  ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ตับก็จะสูญเสียความยืดหยุ่นและกลายเป็นอาการตับแข็งในที่สุด

Liver disease Oc23 04

ไวรัสตับอักเสบ  คือ  ภาวะตับอักเสบที่เกิดจากการอักเสบของเชลล์ตับ  ไวรัสตับอักเสบมีหลายสายพันธุ์ ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี  ซึ่งการติดต่อจะแตกต่างกันไป โดยไวรัสตับอักเสบ เอ จะติดต่อจากแม่สู่ลูก ไวรัสตับอักเสบ บีและซีจะติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และผ่านทางเลือด ซึ่งหากปล่อยให้มีการอักเสบเรื้อรัง  ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับได้

Liver disease Oc23 05

ตับทำงานได้ดีหรือไม่เช็กได้ด้วยวิธีนี้

ตับยังทำงานได้ดีอยู่หรือไม่ สามารถตรวจเช็กความผิดปกติของตับได้ด้วยการตรวจ Liver function tests  หรือการตรวจเลือดเพื่อหาค่าการทำงานของตับที่ประกอบไปด้วยการตรวจ  AST (SGOT), ALT (SGPT), ALP (Alkaline phosphatase), Total bilirubin, Direct bilirubin, Albumin, Globulin, A/G Ratio และ GGT (Gamma GT)

Liver disease Oc23 06

โดยการตรวจเลือดนั้นจะช่วยทำให้ทราบว่าตับนั้นทำงานปกติอยู่หรือไม่  ถ้าค่าขึ้นสูงแสดงว่าตับเกิดการอักเสบและมีปัญหา อาจต้องตรวจเช็กซ้ำด้วยการทำ Ultrasound และการตรวจ  Fibroscan เพื่อให้เห็นว่าไขมันแทรกตับไปขนาดไหน ตับทำงานได้ดีแค่ไหนแล้วและเป็นการตรวจเช็กที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นกว่าการตรวจเลือดเพียงอย่างเดียว

Liver disease Oc23 07

แนวทางการฟื้นฟูสุขภาพตับด้วยการแพทย์แบบบูรณาการ

เพราะตับมีหน้าที่การทำงานหลายอย่าง ดังนั้นหากตับถูกทำลาย สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องซ่อมแซมและฟื้นฟู ซึ่งในทางการแพทย์แบบบูรณาการนั้น การฟื้นฟูตับจะให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้

การขับสารพิษออกจากตับ   เช่น Liver Detox  ซึ่งเป็นการรวมวิตามินบี ซี กรดอะมิโน กลูตาไธโอน และสารอาหาร เข้าไปกระตุ้นการทำงานของตับ  เพื่อให้ตับได้ขับสารพิษได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ  ทั้งนี้สามารถใช้วิธีการล้างพิษอื่น ๆ ในร่างกายเช่น การทำคีเลชั่น ร่วมดูแลก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ช่วยลดปริมาณสารพิษสะสมในร่างกายและช่วยแบ่งเบาการทำงานในการขับสารพิษของตับได้อีกด้วย

Liver disease Oc23 08

การใช้สารอาหารบำบัด   จากธรรมชาติ เพื่อสนับสนุนการทำงานของเซลล์ตับ พบว่ามีงานวิจัยทางหลายอย่างกล่าวถึงสารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนในการสนับสนุนเอนไซม์ต่าง ๆ ของตับในการขจัดสารพิษ เพื่อดูแลและฟื้นฟูการทำงานของตับ   เช่น   สารสกัดจากเห็ดบางชนิด Silymarin ในสมุนไพร  Milk thistle  สารสกัดในกลุ่มของ Thiol  ที่มีอยู่ใน  กระเทียมสด หอมแดงหรือผักที่มีกลิ่นฉุน    รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ เช่น  Vitamin C,  Vitamin E, Co enzyme Q10, Selenium รวมถึงการใช้ probiotic ในการปรับสมดุลทางเดินอาหาร

Liver disease Oc23 09

การสนับสนุนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ตับ เช่น การใช้สารอาหารจำพวกเปปไทด์ หรือยากลุ่ม Homeopathy

การอดอาหารล้างพิษ  Intermittent Fasting    จะช่วยเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบเผาผลาญเพื่อช่วยสลายไขมันในช่องท้อง และลดไขมันในตับได้อีกด้วย

ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เข้านอนเร็ว ตื่นแต่เช้า หมั่นออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ เพื่อลดไขมันส่วนเกินที่จะสะสมในเนื้อเยื่อตับและช่องท้องของเรา

Liver disease Oc23 10

งดการรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย  โดยเฉพาะจากอาหารและยาเคมีต่าง ๆ  รวมถึงงดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เลิกสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงสารเคมีจากการย้อม การยืด การดัด และการทำสีผม  จากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน  และหลีกเลี่ยงการทานถั่วลิสงที่คั่วไว้นานแล้วเพราะอาจได้อัลฟาท็อกชินจากเชื้อรา

เพราะตับของเรามีอันเดียว ถ้าไม่อยากให้ตับป่วยจนสายเกินแก้ อย่าลืมดูแลสุขภาพตับให้ดีก่อนรู้ตัวเมื่อสายตอนที่ตับแย่จนแก้ไม่ได้แล้ว….

error: Content is protected !!