Home / Medical Article / ติดตามข่าวโควิด-19 มากเกินไป จนเครียดจัด ทำให้ภูมิต้านทานต่ำได้
พญ.ส่งแสง กาญจนวิสิษฐผล
กระแสข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลก ณ ขณะนี้คงไม่มีเรื่องใดที่ทำให้ประชาชนรู้สึกกังวลได้มากไปกว่า เรื่อง โควิด-19 (Covid-19) เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สาเหตุทำให้เกิดโรคปอดอักเสบรุนแรงแพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่นของประเทศจีน ที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากในจีน ไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส อเมริกา เกาหลีใต้ เยอรมัน อิตาลี ฮ่องกง ไต้หวัน ออสเตรเลีย อิหร่าน ฟิลิปินส์ เวียดนาม อาหรับ อังกฤษ มาเก๊า กัมพูชา แคนาดา อินเดีย
การติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีประชาชนจำนวนไม่น้อยเกิดความเครียด วิตก กังวล จนมีปัญหาสุขภาพตามมา จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า ความเครียด ความวิตก กังวล ต่าง ๆ สามารถเป็นเหตุให้ภูมิต้านทานของคนเราลดต่ำได้จริงหรือ? และจะมีวิธีดูแลกระตุ้นภูมิต้านทานอย่างไรได้บ้าง
เครียด วิตก กังวลมากเกินเหตุ เป็นเหตุทำให้ภูมิต้านทานต่ำ
จากการศึกษาวิจัยขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีรายงานยืนยันว่า ความวิตกกังวล ความเครียด จะส่งผลให้กระเพาะอาหาร ตับอ่อน ม้าม ทำงานแปรปรวน รวมถึงทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดต่ำลงไปด้วย หากประกอบเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีผู้ติดตามข่าวสารโควิด-19 เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างกังวลมากจนภูมิต้านทานลดต่ำลงก็ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และประเด็นสำคัญที่ทำให้ผู้ติดตามข่าวมีความกังวลเพิ่มขึ้น อาจเพราะมีที่มาจาก โควิด-19 เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สามารถติดต่อแพร่กระจายได้ง่ายกว่าเชื้อไวรัสเมอร์สและซาร์ส จึงทำให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และยิ่งพบการแพร่กระจายของไวรัสในประเทศของตน จึงทำให้ผู้ที่ติดตามข่าวสารยิ่งเครียด กังวลมากขึ้น เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นกับตนเองและสามารถรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตตามที่ทราบจากสื่อต่าง ๆ และถึงแม้จะเพิ่งค้นพบยารักษาแล้ว แต่โรคนั้นรุนแรงลุกลามรวดเร็วและประกอบกับในบางรายสภาพร่างกายอ่อนแอมากจึงส่งผลทำให้เสียชีวิต ทั้ง ๆ ที่อัตราตายถึง 2.3 %
นอกจากความกังวล ความเครียดจากการติดตามข่าวสาร ปัจจัยร่วมที่ทำให้ภูมิต้านทานลดต่ำลงมีสิ่งใด?
ด้วยชีวิตเราในแต่ละวันมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย ดังนั้นจากปัญหาความกังวลที่มากเกินไปจากการติดตามข่าวจนทำให้ภูมิต้านทานลดต่ำลงแล้ว ปัจจัยร่วมอื่น ๆ ยังมีส่วนทำให้ภูมิต้านทานที่ต่ำอยู่แล้วดำดิ่งได้มากยิ่งขึ้น นั่นก็คือ ไลฟ์สไตล์ของเราที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางของสุขภาพดีนั่นเอง เช่น การนอนดึก การทานอาหารที่แพ้แอบแฝง ทานไม่ตรงเวลา ทานอาหารที่ไม่เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของตนเอง ใช้ Social ต่อเนื่องนานเกินไป เป็นต้น
วิธีดูแลตัวเองอย่างไรดี ?
เมื่อเราทราบว่าภูมิต้านทานที่ลดต่ำเกิดจากความกังวล ความเครียด วิธีแก้ไขที่เราสามารถทำได้ด้วยตนเอง ได้แก่
การมีสติ (Mindfulness) ให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่หลงกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิด เช่น อย่าคิดกังวลว่าจะป่วย หรือกังวลไปถึงขั้นว่าป่วยแล้วจะรักษาได้ไหม จะตายหรือไม่ เพราะทุกสิ่งยังไม่เกิดขึ้น วิธีฝึกสติอย่างได้ผล คือ “การพาตัวใจกลับบ้าน” ของ อ.ศุภวรรณ กรีน ฝึกวิธีตามที่ อ.ศุภวรรณ แนะนำจะทำให้ความกังวลกระเด็นไปเอง
ลดการรับรู้ข้อมูลที่เป็นปัญหา เมื่อเราทราบที่มาของปัญหา เช่น กรณีนี้เกิดจากความกังวลที่มีมากเกินไปกับข่าวโควิด-19 เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพราะความกังวลที่มีมากเกินไปจะทำให้เซลล์ทำงานถดถอย ดังนั้นเราควร
ภูมิต้านทานต่ำหรือไม่ รู้ได้จากอะไรบ้าง
บางคนสามารถรับรู้ (perception) ด้วยความรู้สึกของด้วยตนเองว่าภูมิต้านทานต่ำ และยังรู้เท่าทันตนเองว่าเกิดจากปัญหาใด และในบางคนอาจมีลักษณะอาการเบื้องต้นโดยทั่วไปที่บ่งชี้ว่าภูมิต้านทานต่ำ เช่น มักป่วยง่าย อ่อนเพลียบ่อย โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เป็นหวัดบ่อย ท้องเสียง่าย เป็นต้น และถ้าหากต้องการทราบผลระดับภูมิต้านทานที่ชัดเจน สามารถเข้ารับการตรวจได้ที่ Absolute health ด้วยการตรวจควันตัมสแกนหรือตรวจเลือด
แนวทางการกระตุ้นภูมิต้านทานทำได้อย่างไรบ้าง
การกระตุ้นภูมิต้านทานด้วยตนเอง
ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และสอดคล้องกับกรุ๊ปเลือดของตนเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างมีคุณภาพ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่สูบบุหรี่
ตั้งใจหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีและมลภาวะต่าง ๆ
ป้องกันตนเองจากความเสี่ยงจากเชื้อโรคต่าง ๆ (ด้วยการหมั่นล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย,ใช้เครื่องกรองอากาศ ใช้ต้นไม้ดูดสารพิษก็ช่วยได้)
ฝึกสติจะทำให้จิตใจเบิกบาน ความเครียก ความกังวลจะหายไปเอง
การกระตุ้นภูมิต้านทานโดยศาสตร์ทางการแพทย์
ศูนย์การแพทย์บูรณาการแอ็บโซลูท เฮลธ์ ได้มี การทำวัคซีนเฉพาะบุคคล (Allergostop) เป็นนวัตกรรมเยอรมัน เจาะเลือดคนไข้ออกมา นำไปปั่นได้ของเหลวใสสีเหลืองอ่อน นั่นคือพลาสมา นำมาทำวัคซีน เพื่อแยกชนิดเอาพลาสมาออกมาทำวัคซีน ซึ่งจะได้วัคซีน 1 ชุดมี 25 เข็ม ใช้ฉีดวันละ 1 เข็ม เพื่อช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานให้แข็งแรงมากขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญของการมีสุขภาพดีสำหรับทุก ๆ คน คือ การให้ความสำคัญกับการร่างกายและจิตใจในทุกวัน เพื่อไม่ให้สิ่งใดก็ตามที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมีผลกระทบกระเทือนกับจิตใจจนจิตตก ส่งผลให้จิตใจขุ่นมัว กลัดกลุ้ม กังวล และนำไปสู่ปัญหาทางกายตามมา และขณะเดียวกันก็ต้องดูแลร่างกายเรื่องอาหาร ออกกำลังกาย และอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ ไม่ให้ร่างกายเพลี่ยงพล้ำเข้าสู่ภาวะเสียสมดุลที่จะทำลายสุขภาพได้เป็นอันขาด เพื่อให้ทุกคนได้มีสุขภาพกายที่แข็งแรงและสุขภาพใจที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะรับมือกับสิ่งใด ๆ ก็ตามที่จะผ่านเข้ามาทำร้ายชีวิตคุณ
